แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - prasri2552

หน้า: [1]
1
รายงานรายรับ และค่าใช้จ่าย งานไถ่ชีวิตโค-กระบือ ปี ๒๕๕๕

                          รวมยอดบริจาค                                  =   910,090   บาท
      รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น             =   860,090   บาท
                            เงินคงเหลือ               =     50,000   บาท
 
1.    ซื้อวัวควายเมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๕  และวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕ เป็นเงิน 624,000 บาท  ได้จำนวนวัวควาย 32 ชีวิต ไม่นับรวมในท้องที่ติดมากับท้อง

2.   ค่าที่พัก 6 คืน 2,400 บาท (ไปซื้อ ๒ ครั้ง  ครั้งละ ๓ คืน)

3.   ค่าน้ำมัน ๒ รอบ 5,440 + 6,600 = 12,040 บาท

4.   ค่าพิมพ์+ค่าส่ง+ค่าแสตมป์ ประชาสัมพันธ์ + รายงานผล = 26,000 บาท

5.   โอนให้ อ.สมานชัย ค่าสังกะสี ๕๖ แผ่น + ค่าขนควายจากอำเภอนาหว้าไปอำเภอนาทม (ให้ชาวบ้านพันหว้าดอนคู่ที่ดูแลวัวควาย ๑๐ ตัวแทนโรงเรียน ไม่มีเงินทำคอกวัวควาย) จำนวนเงิน 6,600 บาท

6.   โอนให้ อ.สุวรรณ  กล้าขยัน เป็นค่าฝากเลี้ยงอาหารวัวควาย 2,000 บาท

7.   ค่ารั้วลวดหนาม + เสา โรงเรียนบ้านขว้างศรีชูชาติ 22,250 บาท  (โรงเรียนนี้ดูแลวัวควายอยู่ ๑๔ ตัว  มีปัญหาควายไปกินข้าวในนาชาวบ้าน  ทางโรงเรียนไม่มีงบประมาณทำรั้ว)

8.   ค่าสุขภัณฑ์มอบสำนักงานเขตการศึกษาเขต ๒ อำเภอศรีสงคาม 2,500 บาท

9.   มอบหนังสือสำหรับเด็กของสำนักพิมพ์นานมีบุ๊ค ๑ ชุด มูลค่า 12,000 บาท จำนวน ๑๐๕ เล่ม พัดลมเพดาน ๑ อัน 450 บาท แจกทุนอาหารกลางวัน 2,000 บาท  รวมเป็นเงิน 14,450 บาท

10.   มอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนหนองชนพิทยาคม อำเภอนาทม  ทุนละ 1,000 บาท จำนวน ๒๕ ทุน = 25,000 บาท และ พัดลมเพดาน ๑ อัน 450 บาท รวมเป็นเงิน 25,450 บาท

11.   มอบทุนการศึกษาให้โรงเรียนนาหว้าพิทยาสรรค์ อำเภอนาหว้า  ทุนละ 1,000 บาท จำนวน ๒๕ ทุน = 25,000 บาท  พัดลมเพดาน ๑ อัน 450 บาท รวมเป็นเงิน 25,450 บาท

12.   มอบทุนการศึกษาระดับประถมให้เด็กนักเรียน หมู่ ๒ บ้านปากห้วยม่วง  อำเภอบ้านแพง จำนวน ๓๕ ทุน ทุนละ 500 บาท เป็นเงิน 17,500 บาท

13.   ให้กลุ่มแม่บ้าน หมู ๒ บ้านปากห้วยม่วงกู้ทำโรงเห็ด หนึ่งโรง เป็นเงิน 53,000 บาท  โดยกำหนดชำระ หนึ่งปี ไม่มีดอกเบี้ย

14.   มอบพัดลมเพดานให้ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ตำบลนาเข  อำเภอบ้านแพง ๑ อัน มูลค่า 450 บาท  นายบุญเสริม สะอาดเป็นผู้รับมอบ 090-192-8747

15.   จ่ายค่ายาบำรุง, ยาถ่ายพยาธิให้สัตวแพทย์อาสา  นายทองไทย  ทำกองแพง 085-747-3626 เปณเวิน 3,500 บาท

หมายเหตุ: การมอบทุนการศึกษาและวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ได้ทำการมอบที่สำนักงานเขตการศึกษาเขต ๒ อำเภอศรีสงคราม  โดยมีนายบัลลังก์  มรรควินทร  รองผู้อำนวยการ สพป. นครพนม เขต ๒ เป็นตัวแทนรับมอบแทนโรงเรียนต่างๆ 086-238-0003

รวมค่าใช้จ่ายทั้งสิ้น 860,090 (แปดแสนหกหมื่นเก้าสิบบาทถ้วน) คงเหลือเงินบริจาคในบัญชี 50,000 บาท ซึ่งจะต้องเป็นค่าใช้จ่ายในในการตรวจเยี่ยมระหว่างปีและให้แก้ปัญหาเฉพาะหน้ากรณีเกิดปัญหา

ความตั้งใจที่ดีที่ประกอบด้วยความเมตตาเป็นสำคัญของท่านทั้งหลาย  ที่ได้ร่วมบริจาคเงินมากน้อยตามกำลังศรัทธา  ได้ทำให้ควาย ๒๗ ตัว พร้อมลูกในท้อง ๓ ตัว วัว ๕ ตัว รอดชีวิตจากการถูกเชือดคอ ได้ช่วยเพื่อนมนุษย์ผู้ด้อยโอกาสได้มีอาชีพ มีรายได้ มีชีวิตที่ดีขึ้น  ได้ทำให้นักเรียน ๘๗ คนได้รับทุนการศึกษา  และได้มอบสิ่งอำนวยความสะดวก คือ สุขภัณฑ์ จำนวน ๑๐ หน่วย  พัดลมเพดาน ๔ ตัว  อานิสงค์แห่งความดีของท่านจะติดตัวท่านทั้งหลายไปเป็นทิพยสมบัติที่ไม่มีผู้ใดทำลายได้ ของใครของมัน

ท่านใดต้องการปกป้องชีวิตจากการฆ่าปลดปล่อยพวกเขาสู่อิสรภาพให้มีชีวิตใหม่ที่มีความสุข  และได้รับการดูแลตลอดไป  ร่วมบริจาคได้โดย

โอนเข้าบัญชี

   -   ธนาคารไทยพาณิชย์  สาขาอโศก  ประเภทบัญชีออมทรัพย์  เลขที่บัญชี  032-2-58355-6
      ชื่อบัญชี  นายพงษ์ชัยทัศน์  วณิชย์กุล  เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตไตรย

-   ธนาคารกรุงศรอยุธยา  สาขาสุขุมวิท 23  ประเภทบัญชีออมทรัพย์  เลขที่บัญชี  204-1-19819-5
ชื่อบัญชี  นายพงษ์ชัยทัศน์  วณิชย์กุล เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตไตรย

   นายพงษ์ชัยทัศน์ (ธวัชชัย)  วณิชย์กุล 
18/6  ซอยสุขุมวิท 23  ถนนสุขุมวิท  แขวงคลองเตยเหนือ  เขตวัฒนา  กทม. 10110
โทร. 02-258-4235  มือถือ 08-1614-9382   

ด้วยคุณความดีของท่านทั้งหลายที่ได้เสียสละ  ขอกุศลนั้นจงสนองท่านโดยพลัน  ให้ท่านทั้งหลายพ้นจากการถูกฆ่า ถูกประหาร และพันธนาการ  ได้รับความสุขตามอัตภาพ  และเกิดดวงปัญญาญาณ  มองเห็นความจริงของชีวิตตามที่เป็นจริง  เข้าถึงความเป็นอริยบุคคลในปัจจุบันกาล

หากความเกิดยังมีอยู่เพียงใดให้เกิดทันศาสนาพระศรีอริยเมตไตรย์ด้วยเทอญฯ

                     จนกว่าจะพบกันอีก                      
                                  กองธรรมพระศรีอารย์

2
“กองธรรมพระศรีอารย์  กองธรรมนำสุข  พ้นทุกข์นิพพานัง”
องค์กรเอกชนเพื่อเผยแพร่พระพุทธศาสนาและสงเคราะห์เพื่อนมนุษย์และสัตว์โลกที่ประสบเคราะห์กรรม
รายงานผล การไถ่ชีวิตโค-กระบือ ประจำปี ๒๕๕๕ (ปีที่ ๒๑)


เรียนท่านผู้ร่วมบริจาคทุกท่าน
   
   ก่อนอื่นผมต้องขออภัยที่รายงานผลปีนี้ล่าช้าไปมาก  เหตุเป็นเพราะว่าเกิดอุทุกภัยครั้งใหญ่  ประชาชนค่อนประเทศได้รับทุกข์เวทนาแสนสาหัส  ผมเกิดลังเลใจว่าปีนี้จะหยุดสักหนึ่งปีดีไหม?  แต่ระหว่างที่รีรออยู่นั้นน้ำเริ่มลดลง  บรรดาผู้ที่เคยร่วมบุญกันมาทุกๆปีโทรศัพท์มาถามเป็นจำนวนมาก  และไม่น้อยที่โอนเงินเข้ามาเลย  ผมจึงหมดความลังเลใจและเริ่มงานประชาสัมพันธ์  โดยปกติเราจะประชาสัมพันธ์เดือนธันวาคม  รับบริจาคเดือนมกราคม กุมภาพันธ์ ต้นเดือนมีนาคมจะรวบรวมเงินไปดำเนินการ  แต่ปีนี้เวลาล่าไปหนึ่งเดือน  เลยต้องยืดเวลาในการรับบริจาคไปจนถึงสิ้นเดือนมีนาคม  ทำให้กว่าจะได้ดำเนินการก็เข้าเขตเดือนเมษายน  ซึ่งเป็นช่วงโรงเรียนปิดเทอม  ประกอบกับปีนี้เรามีโรงเรียนบางโรงเรียนที่จะมอบทุนการศึกษาและมอบหนังสือให้ห้องสมุดโรงเรียน  และเงินช่วยเหลือเกี่ยวกับวัว-ควาย  เนื่องจากบางโรงเรียนรับวัวควายไว้ดูแลนับ ๑๐ ตัว  แต่ไม่มีงบประมาณทำรั้ว  วัวควายจะออกไปกินต้นข้าวของชาวบ้าน  ซึ่งเราต้องเข้าไปช่วยเหลือ  ดังนั้นผมจึงต้องเดินทางไปสองรอบ  รอบแรกต้นเดือนเมษายน  ประมาณ วันที่ ๓ – ๔ เมษายน  และอีกรอบเมื่อโรงเรียนเปิดเทอม คือช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ประมาณวันที่ ๘ – ๑๐ พฤษภาคม

   การมอบทุนการศึกษาหรือเงินช่วยเหลือแก่โรงเรียนต่างๆ  มีเหตุผลที่จะต้องมอบให้ตัวแทนโรงเรียนต่างๆ  ในที่ประชุมสำนักงานเขตการศึกษา เขต ๒  เพื่อให้มีสักขีพยานและสามารถติดตามได้  นอกจากนี้ บางส่วนที่เราบริจาคให้สำนักการศึกษาเขต 2 เช่น สุขภัณฑ์  ก็เนื่องด้วยการติดตามดูแลวัวควายยังคงมีอยู่ ๑๖ โรงเรียน ในอำเภอนาหว้า, ศรีสงคราม, โพนสวรรค์, ท่าอุเทน, นาทม  รวม ๖ อำเภอ  เราต้องประสานกับโรงเรียนเหล่านั้น  ผ่านทางสำนักงานเขตทั้งในเรื่องการนัดหมายเพื่อไปตรวจเยี่ยม  การควบคุมดูแลล้วนต้องผ่านสำนักงานเขตการศึกษาทุกครั้ง  เราไม่สามารถประสานกับโรงเรียนต่างๆโดยตรงได้  นั่นคือเหตุผลที่ในบางกรณี เราก็ควรบริจาคช่วยเหลือสำนักงานเขตเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดี และความสะดวกในการทำงาน

    ในการซื้อวัวควายรอบแรก คือ เช้าวันที่ ๔ เมษายน ดังนี้

1.    ได้ตกลงซื้อวัว-ควายจากนายโง่น  เจ้าของโรงฆ่าสัตว์ อำเภอศรีสงคราม 090-346-8337  จำนวน 4 ตัว เป็นเงิน 86,000 บาท เป็นวัว 2 ตัว ควาย 2 ตัว

2.   ซื้อจากโรงฆ่าสัตว์นายสมาน เจ้าของโรงฆ่าสัตว์อำเภอศรีสงคราม 081-369-3755  จำนวน 8 ตัว  เป็นเงิน 196,000 บาท  รวมค่าขนส่ง วัว 3 ตัว ควาย 5 ตัว

3.   ซ้อจากนายนิกร  พ่อค้าวัวควาย  มีอาชีพซื้อขายวัวควายจากชาวบ้านไปขายต่อให้โรงฆ่าสัตว์ 086-093-5158 จำนวน 9 ตัว เป็นเงิน 129,000 บาท  เป็นควายหมด

4.   ซื้อจากนายวีระ  พ่อค้าวัวควายบ้านดอนกลาง 084-390-7767  จำนวน 5 ตัว  เป็นควายหมด
         รวมทั้งหมด 26 ตัว  เป็นเงินทั้งสิ้น 504,000 บาท

   ส่วนการซื้อวัวควายรอบที่สอง  ซื้อเมื่อเดินทางไป เมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม และซื้อ เช้าวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๕๕  โดยซื้อจากนายวีระ  สานเสนาะ พ่อค้าวัวควายที่ส่งโรงฆ่าสัตว์เช่นเดียวกัน 084-390-7767  ได้ซื้อควายทั้งหมด 6 ตัว  เป็นเงิน 12,000 บาท  รวมวัวควายที่ซื้อหรือช่วยชีวิตได้ในปี ๒๕๕๕ เป็นจำนวน ๓๒ ตัว มีท้องแก่ลูกอยู่ในท้อง 3 ตัว  ลูกควายที่ยังเป็นลูกแหง่ไม่อดนม ๒ ตัว  คิดเป็นเงินซื้อวัวควายทั้งสิ้น 624,000 บาท

การแจกวัวควายใน ๒-๓ ปีหลัง จะแจกที่บ้านปากห้วยม่วง หมู่ ๒  อำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนมเป็นส่วนใหญ่  เพราะสะดวกในการติดตามดูแล  เนื่องจากได้ผู้ใหญ่บ้าน ประหยัด  นาคะเสน 086-019-0817 ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ ๒ และกลุ่มแม่บ้านช่วยติดตามดูแลให้  ทำให้ง่ายในการตรวจสอบเวลาไปเยี่ยม  ซึ่งจะต้องไปปีละ ๒-๓ ครั้งเป็นปกติ

















“กองธรรมพระศรีอารย์  ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข

3
“กองธรรมพระศรีอารย์  กองธรรมนำสุข  พ้นทุกข์นิพพานัง”
ประชาสัมพันธ์ งานไถ่ชีวิต วัว – ควาย ประจำปี ๒๕๕๕ ปีที่ ๒๑
ณ จังหวัดนครพนม  อ.บ้านแพง ต.นาเข (หมู่ ๒) อ.นาหว้า อ.นาทม อ.โพนสวรรค์
 วันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๕๕


   กองธรรมพระศรีอาร์ยฯขอเชิญชวนทุกท่านเข้าร่วมในการช่วยชีวิตวัว-ควายที่จะถูกฆ่าจากโรงฆ่าสัตว์  เพื่อมอบให้เกษตรกรในเขต จังหวัดนครพนม

   ในปีที่ผ่านมาคือ ปี ๒๕๕๔ เราก็ถือว่าเป็นปีที่เรียกว่า “ข้าวยากหมากแพง” ผู้คนทุกข์ยากลำบาก แต่ทันทีที่ได้รัฐบาลใหม่ กลับเกิดอุทุกภัยครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดของประเทศไทย  เรียกได้ว่าทุกคนไม่คาดคิดว่าจะเกิดขึ้น  ความทุกข์ทรมานสาดซ้ำลงบนผู้คนทั้งแผ่นดินหนักขึ้นอีก  ไม่เพียงแต่มนุษย์ที่เดือดร้อนแสนเข็ญกับมหาอุทกภัยครั้งนี้  บรรดาสัตว์ต่างๆ ทั้งช้าง ม้า วัว ควาย สุนัข เป็ด ไก่ ต่างก็ได้รับผลจากเหตุการณ์นี้เช่นกัน  ผมยอมรับว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ ทำให้เกิดความลังเลใจว่า ในปี ๒๕๕๕ นี้จะดำเนินการไถ่ชีวิตนี้ต่อไปหรือไม่?

   แต่เมื่อเวลาผ่านไป  น้ำเริ่มยุบลง  เหตุการณ์เริ่มเข้าสู่สภาพปกติ  มีผู้มีจิตศรัทธาทั้งเก่าและใหม่ ทั้งที่เคยทำบุญและสนใจที่จะร่วมทำบุญ  ได้โทรศัพท์เข้ามาสอบถามเป็นระยะ  บางท่านโอนเงินเข้ามาเลย  เพราะเคยทำกันทุกปี  ผมจึงหมดความลังเลและตัดสินใจที่จะดำเนินการต่อไป

   และก็ด้วยเหตุผลที่เคยกล่าวไว้กับท่านในปีที่ผ่านมาว่า  เราไม่เคยตั้งเป้าว่าปีหนึ่งจะได้เงินบริจาคเท่าใด?  ต้องช่วยชีวิตได้กี่ตัว?  ดังนั้นใครที่ต้องการจะทำก็จะได้ทำต่อไป ใครมีน้อยก็ทำน้อย  หรือร่วมอนุโมทนาไป  เพราะชีวิตที่กำลังจะถูกเชือดคอ  และจะรอด กำลังรอความเมตตาอยู่ เพียงแค่หนึ่งชีวิตก็ไม่มีอะไรเปรียบแล้ว  หากช่วยให้รอดได้จริง

   ดังนั้นทันทีที่น้ำเริ่มลดลง วันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๕๔ เช้ามืดผมเดินทางออกจากกรุงเทพฯมุ่งสู่อำเภอศรีสงคราม จังหวัดนครพนม เพื่อไปตรวจสภาพความเป็นอยู่ของวัวควาย ทั้ง ๑๐ กว่าโรงเรียน ๖ อำเภอของจังหวัดนครพนม และหมู่ ๒ ตำบลนาเข อำเภอบ้านแพง ว่าภายหลังน้ำท่วมเขาอยู่กันอย่างไร

   การเข้าไปสำรวจติดตามโรงเรียนต่างๆ ทำให้ได้เห็นปัญหาที่คาราคาซังอยู่ บางโรงเรียนผู้บริหารย้ายไป คนใหม่ไม่มีนโยบาย หรือครูที่ดูแลรับผิดชอบเกษียณ  บางโรงเรียนมีแต่ตัวเมียไม่มีตัวผู้ผสมพันธุ์  บางโรงเรียนหญ้าไม่พอเป็นอาหาร  บางโรงเรียนขาดเงินสนับสนุนทำคอกเพิ่ม เป็นต้น ซึ่งจำเป็นต้องเข้าไปช่วยคิดและร่วมแก้ปัญหา  ทั้งโรงเรียนและชาวบ้าน  ซึ่งทุกปัญหาต้องมีทางออก  หากทุกฝ่ายร่วมมือกัน  การติดตามผลและมีส่วนร่วมในการรับรู้และแก้ปัญหามีความสำคัญยิ่ง   เพราะหากปัญหาหนักเกินไป จะรู้สึกโดดเดี่ยว  ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือชาวบ้าน  วันหนึ่งเขาก็ต้องตัดสินใจขายทิ้งแน่นอน  ซึ่งนั่นก็คือการส่งกลับเข้าโรงฆ่าสัตว์นั่นเอง

   ผมจึงพูดอยู่เสมอว่าการติดตามดูแลเท่านั้นที่จะช่วยให้มีชีวิตรอดจริง  และมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีพอสมควร  เช่นการรักษาพยาบาลเมื่อมีการเจ็บป่วย  การเน้นที่ต้องมีคอกที่ถาวร  ชาวบ้านบางคนเลี้ยงโดยไม่มีคอกที่ถาวร  ปล่อยตากแดดตากฝน นอนกับโคลนตมลึกถึงเข่า  เห็นแล้วเป็นที่น่าเวทนามาก  จิตมนุษย์มันหยาบละเอียดไม่เท่ากัน  เหมือนกันก็แต่เพียงรูปร่าง  บางคนวัวควายเจ็บป่วยไม่ยอมรักษา ปล่อยตามยถากรรม  เมื่อเราเข้าไปดูแลสิ่งเหล่านี้ หากเกิดขึ้นก็น้อยมาก

ดังนั้นการไถ่ชีวิตวัวควายนั้น มีภาระอันใหญ่ที่รอคอยอยู่  ไม่มีวันจบสิ้น  มีแต่จะเพิ่มมากขึ้นตามจำนวนวัวควาย

   ในปีนี้ ท่านจะเห็นอำเภอหลายอำเภอโผล่ขึ้นมาอีกหลังจากหายไป 2 ปี  อันนี้ คือเหตุอันเนื่องมาจากปัญหาของโรงเรียนต่างๆนั่นเอง

สำหรับหลักเกณฑ์คร่าวๆที่กองธรรมพระศรีอารย์ฯได้ปฏิบัติมาตลอดของการไถ่ชีวิต คือ
1.   มอบวัวควายให้เฉพาะชาวบ้านที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้ใหญ่บ้าน  ครู  ชุมชน  ในเรื่องความพร้อม และ ความซื่อสัตย์
2.   ฝังไมโครชิฟ ซึ่งมีตัวเลขประมาณ 10 หลักที่ใต้ผิวหนัง ลำคอด้านซ้ายวัวควายทุกตัว  ทำประวัติวัวควายแต่ละตัว  ใครเป็นผู้รับ  เมื่อไร  พร้อมกำหนดเงื่อนไขไว้ในสัญญาว่า  ผู้รับต้องเลี้ยงดูตัวที่ได้รับมอบไปพร้อมลูกตัวแรก จนตลอดชีวิต ห้ามฆ่า ห้ามขาย  ส่วนตัวที่ 2 เป็นต้นไป เป็นกรรมสิทธิ์ของผู้เลี้ยง  หากมีการตายต้องแจ้งให้สัตวแพทย์ไปชันสูตรถ่ายรูปเป็นหลักฐาน
3.   ผมในนามของกองธรรมพระศรีอารย์ฯ หรือตัวแทนผู้บริจาคจะมีการตรวจเยี่ยมทุก 3-4 เดือน เพื่อตรวจสอบและดูสภาพความเป็นอยู่  ส่วนในด้านของโรงเรียนต่างๆจะประสานกับสำนักงานเขตศึกษา 2 อ.ศรีสงคราม จังหวัดนครพนม ออกตรวจเยี่ยมด้สยกัน ส่วนด้านหมู่บ้าน ผมตรวจเยี่ยมร่วมกับผู้ใหญ่บ้านและสัตวแพทย์อาสา

ในปีนี้จะได้มีการแจกทุนการศึกษา แจกโครงการอาหารกลางวัน และเข้าสนับสนุนโรงเรียนที่ไม่เข้มแข็งให้สามารถดูแลวัวควายต่อไป พร้อมทั้งสนับสนุนโรงเรียนที่สามารถต่อยอดโครงการวัว ควายได้

“ท่านทั้งหลายชีวิตนั้นแสนสั้น  เราเดินเข้าหาความตายทุกวัน  วันหนึ่งความตายจะมาถึงอย่างแน่นอน ท่านเคยคิดนึกบ้างไหมว่า  สิ่งที่ท่านมีอยู่จะมากน้อยไม่ว่าจะเป็นวัตถุสิ่งของ หรือคนที่ท่านรัก เกลียด  ท่านจะเอาติดตัวไปได้ไหม? เราจะต้องทอดทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างไว้เบื้องหลัง  จะอยากเอาไปหรือไม่อยากเอาไป  เอาไปได้ด้วยแน่นอนคือ ดี กับ ชั่ว

ความตายคืออะไร?  ความตายคือการเริ่มต้นการเดินทางอีกครั้ง  ชีวิตไม่ใช่มีแต่เพียงโลกมนุษย์เท่านั้น  ชีวิตหลังความตายก็มีน๊ะท่าน  ดังนั้น โลกนี้คือโลกที่เรามาเยือน  และต้องจากไปแน่นอน ไปสู่โลกอื่น

โลกนี้ คือ โลกแห่งการเรียนรู้
โลกนี้ คือ โลกแห่งการบำเพ็ญ
โลกนี้ คือ โลกแห่งการตรัสรู้

และที่สำคัญที่สุด โลกนี้ คือ โลกสมมุติ  รวย หรือ จน เขาดูกันตอนตายแล้วครับท่าน! รวยแค่ไหนตายแล้วก็ต้องทิ้งหมด  หอบไปไม่ได้  แม้จะไม่ร่ำรวย แต่ตลอดชีวิต เต็มไปด้วยการให้  เมื่อท่านเข้าสู่โลกวิญญาณจะได้รับการต้อนรับอย่างสมเกียรติ  สูงศักดิ์ ร่ำรวยล้นฟ้า  หากสร้างแต่ความชั่ว เมื่อเข้าสู่โลกวิญญาณ  สิ่งสมมุติที่มีอยู่ในโลกมนุษย์ จะไม่มีความหมายใดๆ  โลกวิญญาณ ไม่มียศศักดิ์  ไม่มีพรรคพวก  มีอย่างเดียว ดี หรือ ชัว  โลกวิญญาณ คือ โลกที่เป็นจริง  เพราะเป็นโลกที่สัตย์ซื่อ ตรงไปตรงมา  ไม่ละเว้นผู้ใด เป็นโลกที่รับผลแต่เพียงฝ่ายเดียว  และมีมิติเวลาที่ยาวนาน

การได้ชาติมนุษย์ ถือเป็นการได้ชาติที่ประเสริฐ  เพราะเป็นชาติแห่งโอกาส  ใครมีปัญญาก็เร่งฉกฉวยเอาเถิดว่า  สิ่งใดเป็นคุณ  สิ่งใดเป็นโทษ  สิ่งใดมีสาระ  สิ่งใดไร้สาระ  สิ่งใดเป็นของหยิบยืมชั่วคราว  สิ่งใดเป็นอมตะ

 ในท้ายสุด ขอตั้งจิตอธิษฐานว่า  “บุญใด กุศลใด อันเกิดจากการไถ่ชีวิตสัตว์ทั้งหลายเหล่านี้  ขอทุกท่านที่มีส่วนร่วม  มากก็ดีน้อยก็ดี  โดยทางหนึ่งทางใดก็ดี  เป็นมนุษย์ก็ดี เป็นเทพยดาก็ดี  หรือแม้เพียงมีจิตอนุโมทนาก็ดี  บุญกุศลนั้นจงสนองท่านโดยพลัน  และเป็นเหตุปัจจัยให้ท่านทั้งหลายได้ข้ามพ้นกองทุกข์ในปัจจุบันกาลโดยเร็ว  หากความเกิดยังมีอยู่เพียงใด  ขอให้เกิดทันศาสนาพระศรีอาริยเมตไตรย์ด้วยเทอญ”

การประชาสัมพันธ์จะเริ่มตั้งแต่กลางเดือนธันวาคม 2554 เป็นต้นไป  และจะรวบรวมเงินเดือนมีนาคมเดินทางไปซื้อ ในวันที่ 27 มีนาคม 2555  ที่จังหวัดนครพนม  จึงประกาศให้ทราบทั่วกัน

   ท่านใดต้องการปกป้องชีวิตจากการฆ่าปลดปล่อยพวกเขาสู่อิสรภาพให้มีชีวิตใหม่ที่มีความสุขและได้รับการดูแลตลอดไป   ร่วมบริจาคได้ตั้งแต่บัดนี้จนถึงวันที่ 27 มีนาคม 2555


โอนเข้าบัญชี   ธนาคารไทยพาณิชย์  สาขาอโศก  ประเภทบัญชีออมทรัพย์
      เลขที่บัญชี  032-2-58355-6
      ชื่อบัญชี  นายพงษ์ชัยทัศน์  วณิชย์กุล  เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตไตรย์
      โทร  0-2261-1313,  08-0613-3397 

หรือ      ธนาคารกรุงศรีอยุธยา  สาขาสุขุมวิท 23  ประเภทบัญชีออมทรัพย์
      เลขที่บัญชี  204-1-19819-5
      ชื่อบัญชี  นายพงษ์ชัยทัศน์  วณิชย์กุล  เพื่อกองทุนพระศรีอริยเมตไตรย์
      โทร  0-2261-1313,  08-0613-3397 

หรือ   สั่งจ่ายธนาณัติ นายพงษ์ชัยทัศน์  วณิชย์กุล 18/6 ซอยสุขุมวิท 23 
แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา  กรุงเทพฯ 10110  (ปณ. ประสานมิตรเท่านั้น)


   หลังจากการไถ่ชีวิตโค-กระบือ จะมีการรายงานผลถึงจำนวนวัว-ควาย ยอดเงินบริจาค ปัญหา  อุปสรรค และรายละเอียดค่าใช้จ่ายอีกครั้งเช่นที่ทำมาทุกปี

“กองธรรมพระศรีอารย์  ปรารถนาให้โลกนี้มีความสุข”

หน้า: [1]